ขยับขนาดความจุเครื่องยนต์แบบไม่ฝืนด้วยอะไหล่สแตนดาร์ด สู่การโมดิฟายความจุขนาด 2.0 ลิตรที่เน้นแรงบิดเป็นหลักด้วยขุมกำลัง B20B
Civic เจนเนอร์เรชั่นที่ 5 (ตัวถัง EG) นับว่าเป็นรถที่หลายคนยังคงให้ความนิยมในการปรับแต่ง ซึ่งตัวรถแค่ขยับสเต็ปนิดหน่อย ลดน้ำหนักตัวถัง+เดินท่อใหม่&ปรับช่วงล่างนิดหน่อย ก็สามารถนำไปใช้แข่งได้หลากหลายรายการ ตัวเครื่องยนต์ที่นำมาวางรหัส B16A เครื่องยนต์ VTEC1.6 ลิตร ที่ให้กำลังสูงถึง 170 แรงม้า แม้จะเป็นเครื่องยนต์ที่เหนียว แต่หากต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่องก็นับว่าถึงเวลาต้องนำมาโอเวอร์ฮอล
ผลงานการปรับแต่งนี้เป็นผลงานของสำนักเก่าแก่จากเมืองโอซาก้า “Racing Service Factor” ที่ไหนๆเครื่องก็ต้องถึงเวลาโอเวอร์ฮอล์ทั้งที ก็ขยับความจุเป็น 1750cc ไม่ก็ 2000cc ไปสะเลยทีเดียว
แต่หากเน้นการใช้งานในรอบสูงหรือต้องการกำลังเยอะ ด้วยการเปลี่ยนลูกสูบ, ก้านสูบ, แครงก์ชาร์ฟ ซิ่ง ก็ดูจะทำให้งบมันดูโอเวอร์ไป ทำให้หันมาดูในแง่ของราคาการปรับแต่งให้ถูกงบในกระเป๋ามากที่สุด เป็นที่มาของการเลือกใช้ของแต่งสแตนด์ดาร์ดเดิม ที่เน้นกลุ่มสายซิ่งแนวสตรีทแทนที่
หัวใจหลักในการปรับแต่งครั้งนี้เลือกใช้บล๊อกเครื่องยนต์ B20B จาก Stepwagon ฯลฯ, ข้อเหวี่ยง B20B, ลูกสูบและก้านสูบขนาด 85 φ
ฝาสูบแม้ตะเลือกใช้แคมเดิมของ EK9 จากเครื่อง B16A แต่ก็ทำให้สามารถขยับความจุได้ถึง 2.0 ลิตร ซึ่งการปรับแต่งด้วยวิธีการใช้ของแต่งสแตนดาร์ทนี้ ทั้งช่วยประหยัดงบและขยายความจุเครื่องยนต์ได้อย่างไม่ยากนัก ขณะที่กล่องก็ใช้การเขียนโปรแกรมใหม่ให้กับกล่อง ECU เดิม
นอกจากนั้นยังติดตั้ง Oil Catch Tank เพื่อคอยช่วยดักจับไอเสีย ซึ่งตัวเครื่องยนต์ B16A นับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่หากมีน้ำมันเครื่องถูกปนเปื้อน จะทำให้กำลังเครื่องยนต์ตกลงได้ง่าย ซึ่งนับว่าเป็นหนึ่งในสัญญานที่ควรทำการโอเวอร์ฮอล์ทันที
ระบบทำความเย็น เปลี่ยนไปใช้หม้อน้ำอลูมิเนียมขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อควบคุมอุณหภูมิให้อยู่หมัด โดยบริเวณคอนโซลเสริมมิเตอร์วัดความร้อนไว้ ขณะเดียวกันก็ติดตั้งสวิชต์เปิดปิดพัดลมไว้อีกทาง
อีกหนึ่งปัญหาที่มักจจะเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์ B16A อยู่ที่ระบบการจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ โดยสาเหตุหลักๆกว่าครึ่งนึงมาจากตัวจุดระเบิดพัง ซึ่งคันนี้ก็วางระบบเพื่อแก้ไขปัญหานี้ให้จบเรียบร้อย
ระบบไอเสียเดินใหม่หมดผลงานของสำนักเอง ซึ่งทางสำนักสามารถสร้างงานออเดอร์เมดได้ตามความต้องการของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเสียง, หรือต้องการรีดกำลังให้ขึ้นมาอีกนิด
สำหร้บช่วงล่างเปลี่ยนไปใช้รุ่นผลิตพิเศษแบบปรับความสูงได้ ที่ช่วยให้ครอบคลุมการขับขี่ได้หลายรูปแบบตั้งแต่สตรีทไปจนถึงเซอร์กิจ ส่วนสปริงคู่หน้า 14kg/mm, คู่หลัง 12kg/mm
ภายในและภายนอกเน้นเดิมๆแบบที่เจ้าของรถต้องการ แต่ความยากของการแต่งคันนี้อยู่ที่การหาของเดิมให้กลับมาใส่ในรถที่ได้มาจากสภาพแค่โครงตัวถัง เสริมด้วยโรลบาร์ที่ทั้งเพิ่มความปลอดภัยและเพิ่มสไตล์ให้ดุดันมากยิ่งขึ้น
คันนี้แม้ว่าจะเป็นผลงานการปรับแต่งในแบบไม่หนัก ตามความต้องการของเจ้าของรถที่ต้องการทั้งความสนุกและขับขี่สบายๆ แต่แค่การขยายความจุเครื่องยนต์ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำได้ไม่ยากจนเกินไปแถมยังประหยัดน้ำมันได้อีกด้วย โดยราคาในการปรับแต่งนี้เริ่มต้นที่ 4 แสนเยนเป็นต้นไป (ประมาณ 87,000 บาท) เท่านั้น แฟนๆชาวไทยสนใจกันบ้างไหมครับ